โรคทางสมอง สมาธิสั้น แอสเพอร์เกอร์นั้นปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจน แต่มีผู้เชี่ยวชาญหลายท่านเชื่อว่ามีหลายปัจจัยร่วมกัน ทั้งการทำงานที่ผิดปกติทางสมอง พันธุกรรมและสิ่งแวดล้อม แต่ยังไม่สามารถสรุปได้แน่ชัด และในปัจจุบันยังไม่มียาใดที่ใช้รักษาอาการเหล่านี้ให้หายเป็นปกติ
อาการของโรคทางสมอง อาทิ สมาธิสั้น ได้แก่
ไม่สามารถจดจ่ออยู่กับกิจกรรมใด หรือสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้นาน
วอกแวกบ่อย เบื่อง่าย
มักทำของหายบ่อย
หงุดหงิดง่าย บางครั้งก็กรีดร้องโวยวาย
อยู่นิ่งไม่ค่อยได้ ต้องขยับไปมา
ไม่มีความอดทน
บทความเกี่ยวกับการดูแลเด็กสมาธิสั้นและไม่อยู่นิ่ง ที่น่าสนใจของ คุณ Pamela Weintraub ซึ่งเป็นนักจิตวิทยา และเป็นผู้เขียนหนังสือเรื่อง “Cure Unknown: Inside the Lyme Epidemic” ลงพิมพ์ในนิตยสารสุขภาพ online ชื่อดัง Experience Life ในเดือนนี้
เนื้อความโดยสรุป ก็คือการปรับเปลี่ยนคุณภาพอาหารการกินของเด็กให้ดีขึ้น เป็นที่ยอมรับกันดีว่าสามารถจะส่งผลต่อพฤติกรรมของเด็กได้อย่างสำคัญ โดยจะเพิ่มโอกาสการได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อเด็กให้มากขึ้น และ ลดผลกระทบต่อสิ่งปนเปื้อนต่าง ๆ ที่อาจมีผลต่อพฤติกรรม โดยให้แนวทางใหญ่ๆไว้ดังนี้
1. ให้เด็กรับประทานอาหารที่มีอัตราการดูดซึมได้ค่อนข้างช้า โดยเน้น อาหารหมู่โปรตีน ผัก ไฟเบอร์ และจำกัดอาหารที่มีน้ำตาล หรือ แป้งมากเกินไป
2. ให้เด็กรับประทานอาหารที่ผ่านการปรุงแต่งน้อย มาจากธรรมชาติเป็นส่วนใหญ่ และมีสัดส่วนของสารอาหารหนาแน่นมากกว่าเมื่อเทียบกับพลังงาน
3. ดูแลระบบการย่อย ดูดซึม ทางเดินอาหาร และ การขับถ่ายของเด็กให้ดี อยู่เสมอ หากมีอาการ อืด แน่น อาหารไม่ย่อย ท้องผูก ถ่ายเหลว เป็นประจำ ควรปรึกษาแพทย์ และ ทำการแก้ไข แม้จะยังไม่ส่งผลให้มีการเจ็บป่วยใดๆในขณะนั้น
5. พิจารณาการเสริมสารอาหารรอง หรือ วิตามิน และ เกลือแร่บางอย่าง อาทิ วิตามินดี วิตามินบีรวม ไขมัน โอเมก้าสาม กรดอะมิโน แคลเซี่ยม ธาตุเหล็ก แมกนีเซียม และ สังกะสี ทั้งนี้อาจต้องปรึกษากับแพทย์ หรือ นักโภชนการก่อนเพื่อหลีกเลี่ยงการได้รับสารอาหารเหล่านี้เกินขนาด
6. หลีกเลี่ยงอาหารที่มีสีผสมอาหารแบบต่างๆ
7. หลีกเลี่ยงยา หรือ อาหารที่อาจมี salicylates อยู่ อาทิ แอสไพริน หรือ ผลไม้บางชนิด ซึ่งในคนที่มีความไวในการตอบสนอง อาจส่งผลต่อพฤติกรรมได้
8. พิจารณาการทำการทดสอบ โดยหยุดการได้รับอาหารบางชนิด เช่น ผลิตภัณฑ์จากนมวัว แป้งสาลี ซักระยะหนึ่ง หรือ ราวสามสัปดาห์ และสังเกตการณ์เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของเด็กดู
9. ถ้าพฤติกรรมของเด็กยังไม่สงบ แม้จะทำมาทุกกรณีข้างต้นแล้ว อาจพิจารณาจำกัดอาหารให้เหลือเฉพาะแต่ ข้าว เนื้อสัตว์ ผักบางอย่างที่มีโอกาสเกิดอาการแพ้ได้น้อยเท่านั้น ซักระยะหนึ่ง และ สังเกตดูการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมดู
ปลาทะเลน้ำลึก เช่น ปลาทูน่า ปลาแซลมอน เป็นต้น ซึ่งมีโอเมก้า 3 และกรดไขมันดี ที่มีส่วนสำคัญช่วยบำรุงสมองในเรื่องของความจำ ทั้งยังช่วยชะลอการเสื่อมของระบบประสาทส่วนกลาง และช่วยเสริมสร้างผนังเซลล์ประสาทในสมองให้แข็งแรง ซึ่งถือว่ามีประโยชน์สูงสุดต่อสมองมาก แต่หากหาปลาทะเลมารับประทานลำบากหรือไม่มีเวลาเตรียมอาหาร ก็สามารถกินอาหารเสริมประเภท น้ำมันตับปลาแทนได้
0 ความคิดเห็น