การไหว้ตรุษจีนที่ถูกต้องตามหลักดั้งเดิมนั้นจะไหว้กัน 4 เวลา
1. ตอนเช้า ไหว้พระไหว้เจ้า ช่วงเวลาประมาณ 07.00-09.00 น. หลังจากไหว้เสร็จ จะนำของไหว้มารับประทานเพื่อเป็นสิริมงคล
2. ตอนสาย ไหว้บรรพบุรุษ พ่อแม่ปู่ย่าตายาย ช่วงเวลาประมาณ 09.00-12.00 น. รับประทานของไหว้ได้เช่นกัน
3. ตอนบ่าย ไหว้สัมภเวสี ช่วงเวลาประมาณ 13.00-15.00 น. ของไหว้จะจัดเยอะมากขึ้น โดยเพิ่มข้าวสารอาหารแห้งเข้าไปด้วย พอไหว้เสร็จ ส่วนใหญ่จะเอาไปแจกจ่ายให้ผู้คนทั่วไป เป็นการทำบุญให้ทานกับคนจำนวนมากๆ
4. ตอนดึก ไหว้เทพไฉ่ซิงยิ้ม เทพเจ้าแห่งโชคลาภเงินทอง ช่วงเวลาประมาณ 23.00 น. ของไหว้มีมากมายหลายอย่าง แต่หนึ่งในนั้นต้องมีผลไม้ 5 อย่างด้วย
เนื้อสัตว์มงคล
***การไหว้แบบซาแซ คือ ไหว้ด้วยเนื้อสัตว์ 3 ชนิด ไก่หรือเป็ด หมูหรือหัวหมู กุ้งหรือปลาหรือหมึก นั่นเอง
****การไหว้แบบโหงวแซ คือ ไหว้ด้วยเนื้อสัตว์ 5 ชนิด เนื้อสัตว์ที่ไหว้ นอกจาก 3 อย่างแบบซาแซแล้ว จะมีเพิ่ม เครื่องใน (ตับ) เป็ด ปู กุ้ง ไข่ แล้วแต่ความสะดวกและสถานะของแต่ละบ้าน
1. เป็ด การได้ตำแหน่ง
2. ไก่ ความเป็นสิริมงคลและความขยันขันแข็ง ก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ต้องเป็นไก่เต็มตัว (มีหัว ตัว ขา ปีก) มีความหมายถึง ความสมบูรณ์
3. หมู ความอุดมสมบูรณ์ มีกินมีใช้
4. ปู การได้ตำแหน่ง
5. ปลา เหลือกินเหลือใช้ อุดมสมบูรณ์
6. ปลาหมึก เหลือกินเหลือใช้ (เหมือนปลา)
ผลไม้มงคล
***ผลไม้ที่นิยมมากที่สุดจะเป็นส้ม ถือว่าเป็นตัวแทนผลไม้ทุกชนิด โดยมักจะถือส้มไป 4 ใบ ซึ่งเลข 4 นี้ก็มีความหมายมงคล หมายถึง 4 ฤดู พ้องเสียงกับคำว่าความสุข
1. กล้วย กวักโชคลาภเข้ามา และขอให้มีลูกหลานเต็มบ้านเต็มเมือง
2. แอปเปิ้ล ความสันติสุข สันติภาพ (ความสงบสุข)
3. สาลี่ โชคลาภมาถึง (ควรระวังไม่นิยมไหว้บรรพบุรุษและวิญญาณไร้ญาติ)
4. ส้มสีทอง ความสวัสดีมหามงคล (สิริมงคล)
5. องุ่น ความเพิ่มพูน (ความเฟื่องฟู)
6. สับปะรด คำจีนเรียกว่า "อั่งไล้" แปลว่า มีโชคมาหา
7. แก้วมังกร ความอุดมสมบูรณ์
8. ลิ้นจี่ เสริมสิริมงคลในชีวิต
9. ลูกพลับ หนักแน่น มั่นคง ขยันหมั่นเพียร
10. ทับทิม ครอบครัวอบอุ่น ไม่มีเรื่องขัดแย้ง
ผลไม้เหล่านี้มีความหมายสิริมงคล ซึ่งโดยปกติผลไม้จะมีการจัดใส่ภาชนะรวมกันหรือจะจัดแยกกันก็ได้ เป็นตัวเลขที่เป็นมงคล เช่น จัด 4 ลูก หรือ 5 ลูก
0 ความคิดเห็น